5 เรื่องต้องเช็ค ก่อนเดินทางไกล
1.แบตเตอร์รี่
เราอาจจะคิดว่าเราไม่ได้ใช้งานมันมากมายนัก แต่แบตเตอร์รี่เป็นสิ่งที่เราใช้งานแอย่างเป็นประจำแบบไม่คาดคิด ยิ่งกับใครที่ชอบฟังเครื่องเสียงดีๆบ่อยๆแล้สวมีโอกาสที่แบตเตอร์รี่จะกลับบ้านเก่าไว กว่าปกติ เช่นเดียวกับการใชงานที่น้อยบางครั้งก็ทำให้แบตเตอร์รี่เสื่อมสภาพได้เช่นกัน
อาการแบตเตอร์รี่เสื่อมสภาพนั้นสามารถตรวจเช็คได้ง่าย สังเกตจากการสตาร์ทรถยนต์ในแต่ละครั้งดีที่สุด ซึ่งแบตเตอร์รี่ที่ดี ต้องเก็บประจุไฟได้ดี ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่เพียงพอต่อการสตาร์ทรถอย่างง่ายดายกว่าแบตเตอ์รี่ที่เริ่มมีอาการเสื่อมถอย
2.ยาง
เชื่อไหวว่าชีวิตของเรานั้นพึ่งอยู่กับยางรถยนต์มากกว่าที่คิด เพราะมันคือสิ่งที่ตัดสินความปลอดภัยในชีวิตทุกครั้งที่เราขับขี่ .. แม้หลายคนจะไม่ได้คิดถึงข้อนี้ แต่อย่างน้อยที่สุด คุณควรจะตรวจสอบยางก่อนเดินทางเพื่อให้รู้ว่าสภาพยางเป้นเช่นไรเหมาะสมต่อการขับขี่หรือไม่อย่างไร โดยในเบื้องต้นเริ่มจากการเช็คลมยางของรถให้มีแรงดันเท่ากัน จากนั้นตรวจสอบเนื้อยางว่าเหลือมากน้อยเพียงใด โดยดูจากขีดกลางที่อยู่ระหว่างร่องยาง หรือ สะพานยางว่า เหลือมากน้อยเท่าใด หากเหลือน้อยหรือเท่ากับเส้นดังกลาง ควรจะเปลี่ยนยางก่อนเดินทาง เพื่อลดการสุ่มเสียงยางระเบิด โดยเฉพาะใครที่ขับด้วยความเร็วเป็นประจำ ควรหมั่นเช็คให้มั่นใจ
3.เบรก
หลายครั้งที่เราพบว่า การเดินทางจบลงด้วยอุบัติเหตุเพียงเพราะ เราไม่ได้ดูแลรถยนต์ และเบรกก็มักเป็นจำเลยที่พบเป็นประจำเพียงแค่เราประมาท คิดว่าเบรกยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่เลย
ระบบเบรกคือสิ่งเดียวในรถที่ช่วยชีวิตคุณได้ และมันมีความสำคัญอย่างมากในการขับขี่ แม้เบรกจะทำงานได้ดีอยู่อย่างสม่ำเสมอ แต่เราก็ควรต้องตรวจสอบสม่ำเสมอ โดยสังเกตจากระดับน้ำมันเบรกว่าที่การเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หากมีการเปลี่ยนแปลง ควรรีบตรวจสอบโดยทันที และในกรณีที่เข้าขั้นวิกฤติคุณอาจจะพบว่าเบรกมีเสียงดังเวลาใช้งาน ซึ่งหมายถึงว่า เบรกคุณหมดแล้วนั่นเอง แต่ข้อหนึ่งที่ต้องนึกไว้กหากจะเปลี่ยนเบรกคือว่า เบรกนั้นต้องใช้เวลาในการรันอิน ซึ่งเราควรจะเตรียมการตั้งแต่เนิ่นๆ
4.หม้อน้ำ
ระบบระบายความร้อนนน่าจะเรียกว่าเป็นสิ่งที่เรานึกถึงน้อยที่สุดในการขับขี่ เลยก็ว่าได้ และเป็นระบบที่มีความเสี่ยงสูง เพราะกว่าเราจะรู้โดยมากก็ไม่พ้นความร้อนขึ้น จนอาจจะส่งผลถึงเครื่องยนต์พังคาถนนนเลยก็มีให้เห็น เรื่องอาการตัวร้อนนั้น แม้จะไม่มีทางทราบมาก่อน แต่ก็สามารถป้องกันได้ โดยการตรวจสอบที่พักน้ำสำรองว่ามีการพร่องหายหรือไม่ เช่นเดียวกับสภาพน้ำหล่อเย็นมีสภาพเป็นสนิมหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพลดลง เช่นเดียวกับระบบพัดลมไฟฟ้า ควรตรวจสอบว่ามีการทำงานปกติหรือไม่ ด้วย และถ้าพบปัญหาก็ควรรีบแก้ไขโดยทันที
5.ระบบปรับอากาศ
แม้จะไม่ใช่ระบบที่สำคัญเกี่ยวข้องกับการการขับขี่รถยนต์โดยตรง แต่หากต้องเดินทางไกล คงจะไม่มีใครอยากจะเดินทางแบบเหงื่อตก และระบบปรับอากาศเป็นตัวช่วยสำคัญในการขับขี่ ที่ช่วยในการเดินทางไม่หงุดหงิดงุ่นง่าน การตรวจสอบระบบแอร์นั้น ทางที่ดีควรพึ่งผู้เชี่ยวชาญ แต่ถ้าคิดว่ารถเรายังมีความเย็นจากแอร์ที่รถยังดีอยู่ ก็ไม่ได้จำเป็นนักที่จะต้องเช็คอะไรให้ยุ่งยาก
ความจริงการดูแลรถยนต์นั้นไม่ได้เป็นเรื่องยากอย่างที่คิดและคุณก็สามารถที่จะตรวจสอบเองได้ และเมื่อเรารู้ก่อนที่มันจะเสียหาย ก็ยังเป็นช่วยป้องกันค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้หากได้รับความเสียหาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น